วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทำไมเราต้องทำธุรกิจเครือข่าย

7012397_1
       หลายคนคงถามตัวเองในใจว่าทำไมเราต้องทำธุรกิจแล้วทำไปทำไมทั้งๆที่งานอื่นๆมีมากมายให้เราทำตรงนี้ผมขอเอาเรื่อง เงินสี่ด้าน ของ Robert T. Kiyosaki มาพูดพอให้เห็นภาพกันนิดหนึ่งว่า ทุกวันนี้เราทำงานไปเพื่ออะไร? เพื่อใช้ชีวิตไปวันๆ หรือ เพือเก็บเงินไว้ซื้อสิ่งที่เราใฝ่ฝัน ทุกๆคนต่างก็มีความฝันเป็นของตัวเอง แล้วเราทำงานจนประสบความสำเร็จและได้สิ่งที่เราฝันแล้ว เรามีเวลาเท่าไรที่จะอยู่กับความฝันที่เราฝัน มาตลอดชีวิต แต่บางคนก็ได้แต่ฝันและได้แต่คิดในสิ่งที่ตนเอื่อมมือไปไม่ถึงและได้แต่ฝัน จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต  มาดูเรื่อง เงินสี่ด้าน ของ Robert T. Kiyosaki กันครับว่าเขาให้แนวคิดยังไงกับธุรกิจเครือข่าย
Cashflow2
จากทฤษฎี เงินสี่ด้าน จะได้เห็นได้ว่ารายได้ของคนเรามาจากสี่ช่องทางด้วยกัน ซึ่งทั้งสี่ช่องทางแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ซ้ายเราเรียกว่า Active income และ ขวา คือ Passive income

Active Income
Passive Income 
Employee ลูกจ้าง
Business Owner เจ้าของกิจการ
Self Employ ธุรกิจส่วนตัว
Invester นักลงทุน

Active Income
active
       ถ้าเราทำงานเราก็ได้มีรายได้ ถ้าเราหยุดทำรายได้เราก็หยุด หมายถึงเอาตัวเองไปเป็นต้นต่อของรายได้ เช่น ลูกจ้าง คนที่ทำงานแลกเงินเดือน ทำงานไปวันๆเพื่อรอวันที่จะได้ผลตอบแทนจากงานที่เราทำ ต้องทุ่มเทกับงานที่ไม่ใช่ของตนเองเพื่อแลกเงินเพียงน้อยนิด ยิ่งได้ผลตอบแทนเยอะก็ยิ่งต้องทำงานหนักกว่าเดิม ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ไม่มีอิสระภาพ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของนายจ้าง  ลูกจ้างมีหมายประเภท เช่น ข้าราชการ,พนักงานบริษัท,และงานที่ทำไปเพื่อแลกค่าแรงต่างๆอีกมากมาย ส่วน ธุรกิจส่วนตัว ก็คล้ายๆกัน ต้องคอยดูแลและทุ่มเทกับธุรกิจของตนเองจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน วันๆมัวอยู่แต่กับธุรกิจของตัวเอง ยิ่งทำรายได้ให้เรามากเท่าไรก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งสองด้านนี้พอมาถึงตอนเจ็บไข้ได้ป่วยรายได้ก็หยุด  ร้านก็ต้องปิด ไม่ไปทำงานก็โดนตัดเงินเดือนบ้าง ยิ่งถ้าเราประสบอุบัติเหตุอะไร เจ็บไปนานๆ นายจ้างก็มักจะหาคนอื่นมาทำงานแทนเรา พอเราหายดีแล้วต้องไปหางานใหม่ทำอีกก็เหมือนต้องเริ่มต้นใหม่อีก แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว

   
Passive Income 
passive-income
      ถ้าเราไม่ทำเราก็สามารถมีรายได้ อาจจะใช้เวลาสัก 1-5 ในการสร้างที่มาของรายได้ แต่สามารถได้รับรายไปจนตลอดชิวิต พูดง่ายๆก็คือ เงินไหลมาหาเราเองโดยที่เราไม้ต้องทำงานเพราะเราได้สร้างระบบไว้ก่อนแล้ว บางคนอาจจะคิดว่ามีด้วยหรอเงินไหวมาหาเรา? แท้จริงแล้ววิธีมากมายที่สามารถทำให้เงินไหวมาหาเรา ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะครับ เช่น

      - ดอกเบี้ย,เงินปันผล
money_tree
เอาเงินไปฝากกับธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ยหรืออาจจะใช้เงินลงทุนอะไรสักอย่างเพื่อรับเงินปันผล แต่การที่จะได้กำไรเยอะๆนั้นก็ต้องใช้เงินทุนมากเช่นกัน

   - อสังหาริมทรัพย์
news_img_367988_1
มีโรงแรม,คอนโด,บ้านเช่าหรือที่ดิน ให้คนมาอยู่แล้วเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนโดยที่เราไม่ต้องทำไรแค่รอเงินเป็นรายเดือน เพราะเราได้สร้างที่มาของรายได้ไว้แล้ว
 - ทรัพย์สินทางปัญญา
BookFair 366-big
แต่งหนังสือ,เขียนเพลง,หรือสิ่งอะไรก็ได้ที่ใช้ความคิดของเราสร้าง ขึ้นมา แล้วเก็บค่าลิขสิทธิ์ อย่างเช่นฝาขวดน้ำอัดลม คุณรู้หรือไม่ว่า คนออกแนวคิดฝาขวดน้ำอัดลม สามารถมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ของเขา ขวดละ 50 สตางค์ และในวันหนึ่งมีคนมากแค่ไหนดื่มน้ำอันลม ซึ่งทำให้เขาสามารถมีรายได้โดยไม่ต้องทำอะไร แค่มีคนเปิดขวดเขาก็มีเงินไหลเข้ามาแล้ว

  - ธุรกิจเครือข่าย
network-business
4c2f046bf03895ca301766405
หลายคนก็สร้างรายได้จากธุรกิจเครือข่าย เพราะเครือข่ายเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดและลงทุนน้อยที่สุด ที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1-5 ในการสร้างเครือข่ายของตนเองและสามารถเก็บรายได้ไปตลอดชีวิตตราบใดที่บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่


แล้วทำไมเราถึงต้องมาทำเครือข่ายละ?
เพราะในชีวิตจริงนั้นเราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา การเอาตัวเองไปเป็นต้นต่อของรายได้มันมั่นคงก็จริง แล้วหากวันหนึ่งเราเกิดไปประสบอุบัติเหตุอาจทำให้ถึงพิการ หรือเกิดปัญหาทางสุขภาพขึ้นมา อายุก็ยิ่งมากขึ้น เราก็ไม่สามารถเอาตัวเองไปแลกรายได้อีกแล้ว หากเราไม่มีระบบที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ให้กับตัวเอง อาจทำให้เราต้องตกเป็นภาระของคนอื่น และอาจจะเกิดปัญหาทางการเงินในครอบครัว
หากเรากำลังศึกษาอยู่เราก็สามารถทำเครือข่ายได้ เพราะ ธุรกิจเครือข่ายสมัยนี้ เป็นธุรกิจที่เราไม่จำเป็นต้องไปขายสินค้า เพราะเป็นเครือข่ายผู้บริโภค ซึ่งแค่บริโภคสินค้าที่เราใช้อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ประมาณ 900 บาท ต่อเดือน ซึ่งอาจจะน้อยกว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนของเราด้วยซ้ำแค่เราเปลี่ยนที่ซื้อ การทำเครือข่ายเป็นเหมือนการสำรองรายได้ของชีวิตเมื่อเราสำเร็จการศึกษาไปแล้ว เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าจบไปเราสามารถมีงานทำไหม เพราะปัจจุบันนี้ ตกงานกับได้งานอยู่ที่ 50 / 50 % แล้วอีก 2-3 ปีข้างหน้าละมีงานเหลือให้เราอีกไหม เพราะเดียวนี้เราไม่สามารถใช้คำสอนเก่าๆที่ว่า “เรียนให้สูงๆนะจบมาจะได้มีงานดีๆและมั่นคงทำ จะได้ไม่ลำบาก” ซึ่ง ถ้าเป็นหลายปีก่อนอาจยังจะใช้ได้ แต่ปัจจุบันนี้ลองคิดดูว่าคนที่เรียนหนังสือมีเยอะไหม สมัยก่อนหมู่บ้านหนึ่งมีคนเรียนแค่ 5 คน ซึ่งจบมามีงานทำกันทุกคนขนาดคนจบ ม.6 ยังสามารถเป็นครูเลย แต่เดี่ยวนี้ หมู่บ้านมีคนเรียน 5 เหมือนกัน แต่ 5คันรถ ซึ่งจบมาก็อาจมีงานทำแต่ ไม่ทุกคน เพราะเดียวนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว บริษัทและโรงงานส่วนใหญ่ลดปริมาณรายงานคน เพราะเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรแทน คิดดูสมัยก่อนถ้าจะเก็บเกี่ยวข่าวต้องใช้คนหลายคน แต่เดี่ยวนี้แค่ใช้รถเก็บเกี่ยว ก็สามารถเก็ยผลผลิตได้เยอะกว่าและใช้เวลาน้อยกว่าอีก  ขนาดรถยนต์1คันสมัยก่อนต้องคนถึง17คนในการประกอบแต่เดียวนี้เหลือแค่3คนเอง ซึ่งโรงงานผู้ผลิตใช้เครื่องจักรแทน แล้วอย่างตำรวจจราจรสมัยก่อนต้องคอยเฝ้าตามแยกต่างๆเพื่อรักษาความภัย แต่เดียวนี้ใช้เทคโนโลยีทันสมัยแทนหมด ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเราดูในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ขนาดคนขับรถฝ่าไฟแดงยังมีกล้องถ่ายรูปถ่ายป้ายทะเบียนและใบหน้าผู้ฝ่าฝื่นอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องใช้คนหลายๆคนในการคอยตรวจดู  แล้วอย่างร้านค้าต่างๆตอนนี้มีแค่พนักงานที่เค้าเตอร์ชำระเงินเอง โดยที่ไม่ต้องไป เฝ้าสินค้าเพราะมีกล้องวงจรปิดบันทึกอยู่แล้ว  นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ใช้เทคโทคโนโลยีแทนรายงานคน เดียวผมจะอธิบายการเปลี่ยนแปลงไปตามต่างๆจนมาถึงปัจจุบัน
  - ยุคเกษตรกรรม
     ยุดนี้ใครที่มีที่ดินเยอะคนนั้นเป็นคนรวย สมมุติ ปู่ทวดเรามีที่ดิน 100 ไร่ เขาเป็นคนที่รวยในสมัยนั้น ผู้มีลูกหลานก็แบ่งกันเท่าๆกัน สมมุติมีลูกสัก 5 คน ก็แบ่งกันคนละ 20 ไร่ มาถึงปู่เราก้มีลูกอีก4คนก้แบ่งอีกคนละ 5 ไร่ พอมาถึงพ่อเรามีลูกสักสองคน ก็แบ่งอีกคนละ 2.5 ไร่ แล้วมาถึงเราละจะสามารถมีที่ดินเยอะๆได้อีกไหม คงไม่แล้วละเพราะมีนหมดยุคไปแล้ว
  - ยุดอุตสาหกรรม
     เป็นยุดที่ต้องการรายงานคนมากที่สุด เพราะต้องการคทำงานในโรงงาน อย่างที่ผมบอกมะกี้ คนที่จบเรียนมาสามารถมีงานทำกันทุกคน เพราะเป็นยุคที่ต้องรายงานคน
  - ยุดเทคโนโลยีไซเบอร์
     เป็นยุคที่กำลังจะหมดไปแล้วในปัจจุบัน เพราะปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้คลอบคลุมไปทั่วโลกแล้ว หากเราคิด ว่าอยากจะรวยโดยใช้เทคโนโลยี เช่น เปิดร้านเน็ต ผมขอบอกเลยว่าคุณอย่าเปิดดีกว่าเพราะอยู่ได้อีกไม่นานก็อาจจะเจ๋ง เพราะคุณก็รู้ว่าเขากำลังจะเปิดบริการ 3G ซึ่งจะได้เราสามารถ ท่องอินเตอร์เนตได้ทุกที่ๆมีสัญญาน และคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุค สมัยนี้ราคาถูกลงเรื่อยๆ ขนาดเด็กประถมยังสามารถซื้อมาใช้เองได้เพราะเด้กรุ่นใหม่ๆก้าวทันเทคโนโลยี เร็วมาก ลองคุณคิดถึงโทรศัทพ์มือถือสิ เมื่อ10ปีก่อนราคามันเท่าไรแลวเดียวนี้ราคาเท่าไร มันถูกลงจนเด็กอนุบาลสามารถใช้มันได้ คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เนตก็เช่นเดียวกัน อีกหน่อยเด็กอนุบาลก็คงสามารถแบกคอมพิวเตอร์โน้ตบุคไปโรงเรียน
  - ยุคแห่งเครือข่าย
   เป็นยุคที่เรากำลังก้าวเข้าไปและยุคนี้สามารถอยู่ได้จนถึงอีก100ปีข้างหน้า ยุคนี้ใครมีเครือข่ายคนนั้นรวย ยกตัวอย่างเครือข่ายโทร ศัทพ์เคลื่อนที่ สมมุติว่ามีคนใช้สัก 5,000,000 คน และเขาก็คิดค่าบริการถูกแค่นาทีละบาท คิดดู 1 นาที เขามีรายได้เท่าไร ประมาณ 5,000,000 บาทต่อนาที สมมุติว่าเขาจะโกงเงินเราสักนาที โดยการตัดสัญญานทำให้สายหลุด เขาก็ได้เงินไป ห้าล้าน ทั้งๆที่เราไม่โกรธเลยสักนิดเดียว  นี้คือพลังของเครือข่ายสามารถสร้างรายได้เป็นล้านๆโดยที่แต่ละคนใช้สินค้าราคาเพียงน้อยนิด


เดียวผมจะยกตัวอย่างสัตว์สองชนิดที่แนวทางการดำรงแบบ Active Income และ Passive Income

Active Income จิ้งจก
124389011866051
จิ้งจกเป็นสัตว์ที่หากินแบบ Active Income เวลามันหิวหรือต้องการอาหารมันก็ไปหา


Passive Income แมงมุม
17728
แมงมุมเป็นสัตว์ที่หากินแบบ Passive Income ซึ่งอาหารจะมาหามันเองโดยที่มันไม่ต้องออก ไปล่า ซึ่งมันอาจใช้เวลาหลายวันในการสร้างใยของมันโดยที่มันหิวและอด พอมันสร้างใยเส็จแล้วมันก็สามารถเก็บอาหารกินได้ตลอดตราบใดที่ใยของมันยัง แข่งแรงอยู่


สุดท้ายผมขอจบบทความเรื่อง ทำไมเราต้องทำธุรกิจเครือข่าย ด้วย วิดีโอการ์ตูน ที่สร้างแนวคิดดีๆเรื่องนี้

1 ความคิดเห็น:

  1. BetMGM casino app now live in NJ - JtmHub
    “BetMGM has the largest selection of video slots 영주 출장샵 available in the state. The largest 충청북도 출장안마 selection is 충주 출장마사지 in the BetMGM 보령 출장샵 Sports Betting section and 익산 출장마사지 offers a large

    ตอบลบ